tag:blogger.com,1999:blog-65119577236150160342024-03-13T19:56:54.890-07:00การนำเสนอสารภาษาไทย03Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09770385661769495119noreply@blogger.comBlogger5125tag:blogger.com,1999:blog-6511957723615016034.post-62190562298438985332012-09-03T10:00:00.001-07:002012-09-03T10:00:07.554-07:00ดอกบัว<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<iframe allowfullscreen='allowfullscreen' webkitallowfullscreen='webkitallowfullscreen' mozallowfullscreen='mozallowfullscreen' width='320' height='266' src='https://www.blogger.com/video.g?token=AD6v5dxffEir1wsbzU_ZGPf5Y-_GG-FqtfZJGLOz8sd9jDCOAcf94DdK_GC2jutoDGshX80v-gwcnLt3eeMT15Ei9Q' class='b-hbp-video b-uploaded' frameborder='0'></iframe></div>
<br />Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09770385661769495119noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6511957723615016034.post-52701220860212036242012-07-04T21:54:00.001-07:002012-07-04T21:55:58.310-07:00เพลงกล่อมเด็ก นกกาเหว่า<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<iframe allowfullscreen='allowfullscreen' webkitallowfullscreen='webkitallowfullscreen' mozallowfullscreen='mozallowfullscreen' width='320' height='266' src='https://www.youtube.com/embed/K4ShN0-oqZM?feature=player_embedded' frameborder='0'></iframe></div>
<br />
<a name='more'></a><br />Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09770385661769495119noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6511957723615016034.post-213945548883237142012-06-28T23:30:00.002-07:002012-06-28T23:30:07.941-07:00กลอนบทดอกสร้อย<div style="text-align: center;">
<b>บทดอกสร้อย</b></div>
<div style="text-align: center;">
<b>แมว</b></div>
<div style="text-align: center;">
<b><br /></b></div>
<br />
<div style="text-align: center;">
<span style="background-color: white;"> แมวเอ๋ยแมวขโมย ดูซูบซีดอิดโรยเสียหนักหนา</span></div>
<div style="text-align: center;">
<span style="background-color: white;"> เด็กชายเก่งคนดีมีเมตตา ให้ข้าวปลาอิ่มหนำแสนสำราญ</span></div>
<div style="text-align: center;">
<span style="background-color: white;"> จากแมวโทรมถอดรูปแล้วเป็นเเมวสวย แถมยังช่วยจับหนูอยู่ในบ้าน</span></div>
<div style="text-align: center;">
<span style="background-color: white;"> กตัญญูรู้คุณรู้ทำงาน ชีวิตก็เบิกบานสำราญเอย</span></div>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09770385661769495119noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6511957723615016034.post-15307565417541751742012-06-28T23:16:00.003-07:002012-06-28T23:16:37.489-07:00ความเรียงเรื่อง พระคุณแม่<div style="text-align: center;">
<b> พระคุณแม่</b></div>
<div style="text-align: center;">
<b><br /></b></div>
<br />
<div align="left">
<span style="font-size: x-small;"><strong> </strong> แม่ เป็นภาระให้แก่ลูกทุกคนมาตั้งแต่เกิด นั่นเป็นความจริงที่เราไม่อาจจะปฏิเสธได้ ก็ลองคิดดูสิ ตั้งแต่เราเกิดมา ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันเลย อยู่ดี ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็มาโอบอุ้ม ถูกเนื้อต้องตัวเรา มิวายที่เราจะแหกปากร้องไห้ขับไล่ไสส่งยายผู้หญิงคนนี้ขนาดไหน เธอก็ยังพยายามปลอบโยน เห่กล่อมเราอยู่นั่นแหละ เป็นภาระให้เราต้องจำใจเงียบ ยอมนอนดูดนมเธออยู่จั่บ ๆ ๆ พอเราเริ่มเตาะแตะ ตั้งไข่จะเดินไปไหนต่อไหนมั่ง คุณเธอก็ยังคอยเรียกหาเราอยู่นั่นแหละ "มานี่มาลูก มานี่มา อีกนิดเดียวลูก อีกนิดเดียว อีกก้าวเดียว" ไม่รู้จะเรียกทำไมนักหนา ไอ้เราก็เดินล้มลุกคลุกคลานอยู่ เห็นมั้ย เป็นภาระที่เราต้องเดินไปให้เธอกอดอีก โตขึ้นมาอีกนิด เราเริ่มกินอาหารได้ หล่อนก็เอาอะไรนักหนาไม่รู้ เละ ๆ เทะ ๆ มาบดให้เรากิน ไอ้เราจะไม่กินก็ไม่ได้ เดี๋ยวแม่จะน้อยใจ ก็เอาวะ เอาซะหน่อย เคี้ยวไปเเจ่บ ๆ อย่างนั้นแหละ แม่คุณก็ยิ้มปลื้ม คงนึกว่าเราอร่อยตายล่ะมั้งนั่นน่ะ กล้วยบดนะจ๊ะ เธอจ๋า ในปากฉันตอนนี้น่ะ ถ้าคิดว่ามันอร่อยขนาดนั้น ทำไมไม่ลองทานเองดูมั่งล่ะ ทีนี้พอเราเริ่มพูดจารู้เรื่องขึ้นมาหน่อย คราวนี้ยังไงล่ะ ผู้หญิงคนนี้กลับขับไล่ไสส่งให้เราไปโรงเรียนซะอีก ไม่ไปก็ไม่ได้ด้วยนะ บางทีมีตีเราเข้าให้อีก ภาษา อะไรนักก็ไม่รู้ เอามาให้เราหัดอ่านหัดเรียนใช่มั้ย ลองคิดดูนะ สัปดาห์หนึ่งต้องไปโรงเรียนตั้งห้าวันน่ะ มันภาระหนักหนาแก่เราแค่ไหน <b> </b>แต่พอถึงเวลาเราจะดูทีวี ดูหนังการ์ตูน นอนดึกขึ้นมาสักหน่อย ลองนึกย้อนไปสิ ใครกันเคี่ยวเข็ญให้เราไปนอนด้วย ตัวเองง่วงจะนอนคนเดียวก็ไม่ได้นะ ต้องบังคับให้เราไปนอนเป็นเพื่อนด้วย ใช่มั้ย ที่พูดนี่ไม่ใช่ลำเลิกหรอกนะ เพียงแค่อยากให้เห็นใจกันบ้างเท่านั้น วันเวลาผ่านไป เราโตขึ้น แต่แม่ก็ยังไม่ยอมโตตามเราสักที ลูกอยากจะทำผมทำเผ้า แต่งเนื้อเเต่งตัวให้มันดูอินเทรนด์ ดูทันสมัย ใคร ใครกันเป็นตัวสกัดดาวรุ่ง พูดแล้วขนลุก ผู้หญิงคนนี้มีพัฒนาการไม่คืบหน้าไปไหนเลย </span><span style="background-color: white; font-size: x-small; text-align: center;">พอเราสำเร็จจบการศึกษาเเล้วเป็นยังไง... เธอร้องไห้ครับ เชื่อเถอะว่าเธอต้องร้องไห้ ถ้าเราไม่เห็นก็แปลว่าเธอต้องแอบร้องไห้ มีอย่างที่ไหน เราคร่ำเคร่งร่ำเรียนมาแทบตาย แล้วตัวเองแท้ ๆ ที่เป็นคนเริ่มเรื่อง พอเราเรียบจบแทนที่จะดีใจดันมาร้องไห้ มีอย่างที่ไหน </span><span style="background-color: white; font-size: x-small;">ดีนะว่าเราเข้าใจ คู่มือการเลี้ยงแม่ ก็เลยทำใจได้ ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้ขอไปฉลองการสำเร็จการศึกษากับพวกเพื่อน ๆ ที่นอกบ้านก่อน ก็แหม เรียนจบทั้งที จะมาให้นั่งดูผู้หญิงแก่ ๆ นั่งร้องไห้ทำไมล่ะ </span><span style="background-color: white; font-size: x-small;">เป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้วนี่ คราวนี้ใคร ๆ ก็ต้องอยากมีแฟน คนโน้นก็ไม่ดี คนนี้ก็เรื่องมาก ผมยาวไปมั่งล่ะ ดูไม่มีความรับผิดชอบมั่งล่ะ...แม่ แม่จะไปรู้อะไร แม่เคยคบกับเขาเหรอ </span></div>
<div align="left">
<span style="font-size: x-small;">ไม่ใช่แค่เรื่องคู่ครองเท่านั้นนะ แม่เขายังอยากรู้ไปจนถึงเรื่องอาชีพการงานด้วยว่าเราจะไปทำอะไร อยากเป็นอะไร <br /><strong> </strong>แม่ครับ แม่ไม่รู้สักเรื่องจะได้มั้ยพวกเราจะเป็นอะไรมันก็เรื่องของพวกเรา อนาคตของเรา ขอให้เราได้ตัดสินมันเอง แต่เรารับรองกับแม่ได้อย่างหนึ่งว่า เราจะไม่เป็นเหมือนแม่หรอก... เชย นับจากบรรทัดแรก จนมาถึงบรรทัดนี้ เวลาก็ผ่านไปหลายปีแล้ว สมควรที่พวกเราจะแต่งงานมีครอบครัวเป็นของตนเองสักที ว่าแล้วเราก็ย้ายออกจากบ้านแม่ มายืนด้วยลำแข้งของตัวเอง อย่างที่แม่เคยพูดไง แล้วทำไมต้องมาทำตาละห้อยด้วยล่ะ วันที่เราย้ายออกมาน่ะ มันก็ไม่ได้ใกล้ มันก็ไม่ได้ไกลหรอกนะ ไอ้ที่ย้ายออกมาน่ะ แต่เวลามันรัดตัวจริง ๆ ใช้โทร.คุยกันก็ได้นะแม่นะ ถึงวันที่เรามีลูก แม่ยังพยายามอยากมาทำตัวเป็นภาระกับลูกเราด้วย เราบอกแม่ว่าไม่ต้องมายุ่งหรอก เราดูแลลูกของเราได้ เด็กสมัยนี้มันไม่เหมือนกับสมัยแม่แล้วล่ะ แม่อายุเกือบหกสิบปีแล้ว โทร.มาไอแค่ก ๆ บอกไม่ค่อยสบาย เราบอกแม่ว่าอย่าคิดมาก ในใจเรารู้อยู่แล้วว่าแม่พยายามเรียกร้องความสนใจ นั่นเป็นพัฒนาการตามธรรมชาติของคุณแม่วัยนี้ <span style="color: black;">จวบจนกระทั่งวันหนึ่ง คุณโทร.กลับไปที่บ้านแม่ แต่... ไม่มีคนรับสายแล้ว อย่าเพิ่งตกใจ แม่อาจจะออกไปทำบุญที่วัดตามประสาคนแก่ก็ได้ ลองโทร.เข้ามือถือแม่ดูซิ...ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก... อย่าเพิ่งด่วนสรุป มือถือแม่อาจจะแบตหมดก็ได้ ผู้หญิงคนนี้กระดูกเหล็กจะตายไป เธอต้องไม่เป็นอะไรแน่ ๆ คิดฟุ้งซ่านไปได้ ยังไงแม่ก็ต้องรอเราอยู่เหมือนเดิมน่ะแหละ ไปหาเมื่อไหร่ก็ต้องเจอ อย่างมากแกก็อาจจะงอนนิด ๆ หน่อย ๆ พอเห็นหลานตัวเล็ก ๆ วิ่งเข้าไปกอดก็ขี้คร้านจะอ่อนยวบเป็นขี้ผึ้ง หลายวันผ่านไป ทำไมแม่ยังไม่โทร.กลับมาอีกนะ ทำบุญตักบาตรก็ไม่น่าจะรอคิวนานขนาดนี้<strong> </strong>ชาร์จแบตมือถือไม่เต็มก็เป็นไปไม่ได้ ต่อให้เป็นแบตเตอรี่รถสิบล้อป่านนี้ไฟทะลักแล้ว วันนี้แวะไปหาแม่สักหน่อยดีกว่า<strong> </strong>ระหว่างทางที่คุณขับรถไป ลูกคุณซนเป็นลิงอยู่ข้าง ๆ ประโยคมากมายที่หลุดจากปากคุณ ล้วนเเต่เป็นคำที่แม่คุณเคยพูดมาแล้วทั้งสิ้น คุณเพิ่งสัมผัสได้ ภาพเก่า ๆ มากมายที่ผู้หญิงคนนั้นทำวิ่งวนอยู่ในหัวคุณ ช่างเถอะ.. เดี๋ยวเจอเธอแล้ว คุณจะสารภาพผิด แล้วทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น แล้วคุณก็ได้เจอ คนที่คุณรู้สึกว่าเธอเป็นภ</span>าระให้กับคุณมาตั้งแต่เกิด </span><span style="font-size: x-small;">ผู้หญิงคนนั้น นอนตายในท่าที่คอยคุณมาตลอดชีวิต... </span></div>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09770385661769495119noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6511957723615016034.post-7868353937439658742012-06-28T22:38:00.001-07:002012-06-28T22:40:17.353-07:00นิทานเรื่อง ชายชรากับลังเหล็ก<div style="text-align: center;">
<b>นิทานเรื่อง ชายชรากับลังเหล็ก</b></div>
<div style="text-align: center;">
<b><br /></b></div>
<b></b><br />
<div dir="ltr">
<b></b><span style="font-size: x-small;"><b><span style="color: maroon;"> </span> กาลครั้งหนึ่ง</b>
ยังมีคุณลุงอยู่ท่านหนึ่ง
ในช่วงวัยหนุ่มคุณลุงท่านนี้เป็นหัวหน้าคนงานอยู่ในเหมืองทองคำมีรายได้ดีมาก
แต่คุณลุงท่านนี้ไม่เคยเก็บเงินเลยมีเท่าไรก็ใช้หมด
เนื่องจากคุณลุงเป็นคนจิตใจดีใครมาหยิบยืมก็ให้ เลี้ยงเพื่อนฝูงตลอด
คุณลุงมีเพื่อนเยอะมาก จนกระทั่งคุณลุงท่านนี้เกษียณอายุจากการทำงาน
ปรากฏว่าไม่มีเงินเหลือเลยจากชีวิตการทำงานอันยาวนาน คุณลุงมีลูกอยู่ 5 คน
เมื่อคุณลุงไม่มีเงินก็จำเป็นต้องไปอาศัยอยู่บ้านลูกๆ ทั้ง 5 คน </span></div>
<div dir="ltr">
<span style="font-size: x-small;">วันจันทร์ ก็ไปอยู่บ้านลูกสาว
ก็ถูกลูกเขยพูดจากระทบกระเทียบ เช่น "ทำไมคุณพ่อคุณไม่ไปบ้านลูกคนอื่นบ้างนะ
ผมจะทำอะไรก็อึดอัดจริงๆ " </span></div>
<div dir="ltr">
<span style="font-size: x-small;">วันอังคาร ก็ไปอยู่บ้านลูกชาย ก็ถูกหลาน
และลูกสะใภ้กระทบกระเทียบ เช่น
"รำคาญคุณปู่จังเลยกับข้าวที่หนูชอบดูสิคุณปู่ทานหมดเลย
ทำไมคุณปู่ไม่ไปบ้านอื่นบ้าง" เป็นเช่นนี้ตลอด
คุณลุงก็เปลี่ยนไปอยู่บ้านลูกคนนั้นทีคนนี้ที ก็ถูกลูกบ้าง ลูกเขยบ้าง ลูกสะใภ้บ้าง
หลานบ้างพูดจาถากถางอยู่ตลอด แต่คุณลุงก็ต้องทน
เพราะคุณลุงไม่มีเงินเก็บแม้แต่บาทเดียว </span></div>
<div dir="ltr">
<span style="font-size: x-small;">อยู่มาวันหนึ่ง คุณลุงตัดสินใจเรียกลูกๆ
ทุกคนมาแล้วบอกว่า "พ่อจะไม่อยู่สัก 2 ปีนะลูก
เพราะเพื่อนพ่อที่เป็นเจ้าของเหมืองทองคำมันเขียนจดหมายมาขอร้องให้พ่อไปช่วยงานที่เหมืองทองคำของมัน
พ่อจำเป็นต้องไปช่วยเขาจริงๆ" ลูกๆ
ได้ฟังดังนั้นก็ดีใจสนับสนุนเพื่อให้คุณลุงท่านนี้ไปให้พ้นๆ
จะได้ไม่เป็นภาระอีกต่อไป </span></div>
<div dir="ltr">
<span style="font-size: x-small;"><br /></span></div>
<div align="center" dir="ltr">
<span style="color: maroon;"><img border="0" height="253" src="http://www.everykid.com/nitan2/oldman_iron%20box/old2.gif" width="320" /></span></div>
<div align="center" dir="ltr">
<span style="color: maroon;"><br /></span></div>
<div dir="ltr">
<span style="font-size: x-small;">เมื่อครบ 2 ปี
คุณลุงท่านนี้ก็กลับมาพร้อมกับลังเหล็กใบใหญ่ 1 ใบ ไปไหนแกก็ลากไปด้วย ลูกๆ
ก็พากันแปลกใจและถามว่า "ลังอะไร" คุณลุงตอบว่า
"เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ได้มาจากเหมืองทองคำของเพื่อน
ถ้าใครดูแลพ่อจนถึงวาระสุดท้ายก็จะมอบสมบัติในลังเหล็กให้ทั้งหมด" ปรากฏว่า ลูกๆ
พากันตื่นเต้น ต่างอาสามาดูแลคุณพ่อกันยกใหญ่ </span></div>
<div dir="ltr">
<span style="font-size: x-small;">วันจันทร์ คุณลุงก็อยู่กับลูกสาวคนโต
ลูกเขยกับหลานก็พากันเอาใจบีบนวดให้ หาของกินดีๆ มาให้
แต่ยังไม่ทันไรลูกชายคนที่สองก็มาตามให้ไปอยู่ด้วย และก็เช่นกันยังไม่ทันไร
ลูกสาวคนที่สาม ก็มาตามให้ไปอยู่ด้วยอีก ปรากฏว่าลูกๆ ทั้ง 5 คน
ของคุณลุงต่างแย่งกันเอาใจและปรนนิบัติคุณลุงท่านนี้อย่างดี
แต่เวลาไปไหนคุณลุงก็จะลากลังเหล็กใบนี้ไปด้วยตลอด </span></div>
<div dir="ltr">
<span style="font-size: x-small;"><br /></span></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://www.everykid.com/nitan2/oldman_iron%20box/letter.gif" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="298" src="http://www.everykid.com/nitan2/oldman_iron%20box/letter.gif" width="300" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div dir="ltr">
<span style="font-size: x-small;">เวลาผ่านไป 7 ปี คุณลุงท่านนี้เสียชีวิตลง
หลังงานพิธีศพลูกๆ ทุกคนพากันมานั่งล้อมลังเหล็กใบนี้เพื่อแบ่งสมบัติกัน
ลูกสาวคนโตเป็นคนเปิดฝาลังเหล็ก พบว่ายังมีผ้าสีขาวปิดอยู่อีกชั้นหนึ่ง
และมีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่ ลูกสาวคนโตก็เปิดอ่านให้น้องๆ ฟัง
เนื้อความในจดหมายเขียนไว้ว่า </span></div>
<div align="center" dir="ltr">
</div>
<div dir="ltr">
<span style="font-size: x-small;">นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
อย่าประมาทและอย่าคาดหวังว่าใครจะเลี้ยงดูเรา ให้เร่งเก็บออมเสียตั้งแต่เนิ่นๆ
จะได้มีชีวิตบั้นปลายที่สุขสบาย </span></div>
<div dir="ltr">
<span style="font-size: x-small;">ได้ฟังนิทานเรื่องนี้ทีไรให้รู้สึกสะท้อนใจทุกครั้ง และไม่เคยคิดว่า
เป็นเพียงนิทานเพราะเหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่ไม่เตรียมเก็บออมเงินเสียตั้งแต่เนิ่นๆ
....พึ่งพาใครไหนเรา..จะดีเท่าพึ่งพาตัวเราเอง </span></div>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09770385661769495119noreply@blogger.com0